ของเล่นและการเล่นของเด็กตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยเตาะแตะ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากที่เจ้าหนูจะสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเล่น ของเล่นยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกของคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย ดังนั้นการเข้าใจถึงพัฒนาการของเด็กในแต่ละวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้พ่อแม่สามารถเลือกของเล่นให้ลูกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมนั่นเอง มาดู วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของลูกกัน
วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของเล่นเด็กวัยแรกเกิด – 6 เดือน
- กระตุ้นการมองเห็น ได้แก่ ของเล่นที่มีสีสันสดใสเพื่อดึงดูดสายตา เช่น โมบายลวดลายกราฟฟิก หรือรูปภาพที่มีสีตัดกันอย่างชัดเจน เช่น ดำ-ขาว / น้ำเงิน-เหลือง / แดง-เขียว เป็นต้น หรือเลือกที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง ๆ เวลาที่ลมพัดก็ได้
- กระตุ้นการฟังเสียงได้แก่ ของเล่นที่มีเสียง เช่น กล่องดนตรี ของเล่นที่เขย่าหรือบีบให้เกิดเสียง
- ของเล่นเสริมกล้ามเนื้อได้แก่ ของเล่นที่บีบหรือเขย่าแล้วเกิดเสียง ของเล่นที่มีมือสอดกำได้ ลูกบอลนุ่ม ตุ๊กตาผ้ารูปสัตว์ เพื่อส่งเสริมการใช้มือ-นิ้วมือสำหรับหยิบจับสิ่งต่าง ๆ
- ของเล่นเสริมสติปัญญา ได้แก่ หนังสือลอยน้ำ หนังสือภาพ โดยมีคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใกล้ชิดคอยอ่านให้ฟัง และชวนดูสีสันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในหนังสือ กระจกเงาฝึกการรู้จักตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของเล่นเด็กวัย 6 – 12 เดือน
- กระตุ้นประสาทสัมผัส ได้แก่ ของเล่นที่มีผิวสัมผัสแตกต่างกัน เช่น เรียบ หยาบ นุ่ม แข็ง เพื่อกระตุ้นทักษะ การสัมผัส ของเล่นที่ดูด หรือกัดได้ เช่น ยางกัดรูปทรงต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการรับรู้และช่วยลดอาการคันเหงือกของเด็ก
- ของเล่นเสริมกล้ามเนื้อ ได้แก่ ของเล่นประเภทลากจูง เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขา เล่นลูกบอลนุ่ม บล็อกไม้ใหญ่ ๆ กล่องหยอดรูปทรงง่าย ๆ เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมือและนิ้วมือในการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ของเล่นที่เขย่าให้เกิดเสียง เพื่อส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น มือ นิ้วมือ
- ของเล่นเสริมสติปัญญา ได้แก่ หนังสือที่มีรูปภาพขนาดใหญ่สีสันสดใส ซึ่งพ่อแม่อ่านให้ฟังหรือให้ลูกเปิดหนังสือด้วยตัวเอง แล้วออกเสียงตาม กระจกเงาเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ของเล่นลอยน้ำ เช่น ถ้วยกระป๋องเล็ก ๆ เมื่อลูกอาบน้ำให้ลูกรินน้ำและเทเล่น เพื่อปูพื้นทางคณิตศาสตร์เรื่องการกะปริมาณ เป็นต้น
วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของเล่นเด็กวัย 1 – 2 ขวบ
- ของเล่นเสริมกล้ามเนื้อและการประสานสัมพันธ์ ได้แก่ ของเล่นประเภทดันหรือลากจูง (Push Toys & Pull Toys) ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อแขนขาในการทรงตัวและฝึกการบังคับทิศทางการเดิน ของเล่นประเภททุบ ตอก หรือตี เช่น ระนาดหรือกลองที่มีเสียงต่าง ๆ ซึ่งนอกจากทำให้เด็กเรียนรู้ความแตกต่างของเสียงแล้วยังฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือ นิ้วมือ และการประสานสัมพันธ์ระหว่างสายตาและมือ ของเล่นชนิดนี้จะเหมาะเป็น ของเล่น เสริม พัฒนาการ เด็ก 2 ขวบ
- ของเล่นเสริมความคิดและสติปัญญา ได้แก่ กล่องหยอดรูปทรงเรขาคณิต เพื่อฝึกการสังเกตและเรียนรู้สี รูปทรงเลขาคณิตต่าง ๆ หนังสือภาพ เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษา การปั้นดินน้ำมัน แป้งโด ซึ่งช่วยฝึกสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ ในการปั้นให้เป็นรูปต่าง ๆ ตามจินตนาการของตัวเอง
วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของเล่นเด็กวัย 2 – 3 ขวบ
- ของเล่นเสริมกล้ามเนื้อและการประสานสัมพันธ์ ได้แก่ ม้าโยก จักรยานสามล้อซึ่งนอกจากความสนุกสนานแล้วยังช่วยให้เด็กฝึกใช้กล้ามเนื้อแขนขาในการทรงตัว สร้างความสมดุลของร่างกายฝึกร้อยลูกปัดขนาดใหญ่ เพื่อฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือและนิ้วมือ รวมทั้งช่วยพัฒนาการทำงานของสายตาและมือให้สัมพันธ์กัน
- ของเล่นเสริมความคิดและสติปัญญา ได้แก่ แป้นเรขาสวมหลัก เป็นการฝึกทักษะการแก้ไขปัญหา ลองผิดลองถูกเพื่อวางให้ถูกรูปทรง รถไฟเรียงซ้อน ฝึกทักษะการสังเกต การลองผิดลองถูก และเรียนรู้ เรื่อง ขนาด สีสันและรูปทรงต่าง ๆ
- ของเล่นเสริมบทบาทสมมติ ได้แก่ ชุดของเล่นเรียนแบบของจริง เช่น ชุดรวมมิตรผักผลไม้ สอนเด็กให้เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับผักผลไม้ โดยเล่านิทานผูกเรื่องราวให้เด็กสมมติตัวเองเป็นตัวละครในเรื่องราวนั้น ซึ่งทำให้เด็กได้แสดงความเป็นตัวเองออกมา และช่วยให้เด็กรู้จักเข้าใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น
วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย ของเล่นเด็กวัย 4 – 6 ขวบ
- ของเล่นเสริมกล้ามเนื้อและการประสานสัมพันธ์ ได้แก่ รถจักรยานสองล้อ เชือกกระโดด ซึ่งช่วยฝึกการทรงตัวและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขา ฝึกร้อยเชือกรองเท้า ช่วยพัฒนาการทำงานประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือและเพิ่มทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือเพื่อประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน เช่น การติดกระดุมเสื้อ เป็นต้น
- ของเล่นเสริมความคิดและสติปัญญา ได้แก่ ชุดแท่งไม้สร้างเมือง ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กในการออกแบบโครงสร้าง เพื่อวางแท่งไม้ให้เป็นรูปแบบเมืองต่าง ๆ ส่งเสริมความเข้าใจทางคณิตศาสตร์เรื่องของสมดุล ซึ่งทำให้เด็กเรียนรู้การวางไม้แต่ละชิ้น ให้สมดุล ชุดเครื่องมือช่างสร้างสรรค์พัฒนาความคิด และฝึกทักษะการสังเกตในการประกอบชุดไม้เป็นรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งทำให้เด็กเรียนรู้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในงานช่างไม้ เช่น การขันน็อต ไขควง เป็นต้น
- ของเล่นเสริมบทบาทสมมติ ได้แก่ ชุดสร้างเมือง ซึ่งเป็นการเล่นที่สะท้อนความคิด ความเข้าใจของเด็กในสิ่งที่กำลังเรียนรู้ รวมทั้งช่วยให้เด็กเรียนรู้บทบาทหน้าที่ของตนเองและผู้อื่นในชีวิตประจำวันและสร้างพื้นฐานการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วย
ฝากข้อคิด แม้ของเล่นกับเด็กจะเป็นของคู่กันเพื่อสร้างความสนุกสนานและพัฒนาทักษะการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่าง ๆแต่คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า ของเล่นที่ดีที่สุดของลูก คืออะไร คำตอบคือ คุณพ่อคุณแม่นั่นเอง !!!
สิ่งสำคัญการเล่นของลูกนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ร่วมเล่นกับลูกด้วย การได้พูดคุย ซักถาม โอบกอด ยิ้มให้กัน จะสร้างความสุขให้แก่ลูกได้อย่างมาก อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่เองก็จะได้เห็นพัฒนาการของเจ้าตัวน้อย สอนและชี้ชวนให้ลูกคิดและทำ ฝึกฝนความมั่นใจ แต่อย่าลืมนะคะหากลูกทำสำเร็จ เช่น สร้างบ้านด้วยตัวต่อ ระบายสีรูปจนเสร็จ คุณพ่อคุณแม่ต้องชมเชยลูกทันทีที่ลูกทำสำเร็จนะคะ เพราะจะเป็นกำลังใจและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ลูก ถือเป็นการปูพื้นฐานทักษะการคิดและความมั่นใจในตนเองให้ลูกต่อไปค่ะ
หลัก 6 ข้อ เลือกของเล่นอย่างไรให้ปลอดภัย
- เลือกของเล่นที่ปลอดภัย คงทน ไม่มีมุมหรือเหลี่ยมคม ใช้สีที่ไม่เป็นพิษ มีความแข็งแรงคงทน ทำความสะอาดง่าย มีน้ำหนักที่เหมาะกับมือเด็ก
- เหมาะสมกับวัย สีสันสดใส มีประโยชน์รอบด้าน และเด็กสามารถเรียนรู้ได้หลากหลาย
- หลีกเลี่ยงของเล่นที่มีขนาดเล็กให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เนื่องจากเป็นวัยที่ชอบหยิบของเล่นเข้าปาก
- หลีกเลี่ยงของเล่นที่ส่งเสริมความก้าวร้าวรุนแรง เช่น ของเล่นที่เป็นอาวุธ
- มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยได้รับความปลอดภัยจากสถาบันที่ได้มาตรฐาน เช่น มอก. เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของคุณภาพของของเล่น
- ของเล่นไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อราคาแพง พ่อแม่อาจประดิษฐ์ของเล่นทำเองจากวัสดุที่มีในบ้าน หรือการพูดคุยหยอกล้อ การเล่านิทาน ร้องเพลง ทายปัญหา จะเป็นการเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้อย่างดี และมีคุณค่ามากสำหรับลูก
จะเห็นการเลือกของเล่นเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัยเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกได้ ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรมีเวลาเล่นกับลูก การเล่นกับลูกเป็นการถ่ายทอดความรัก ความอบอุ่นที่พ่อแม่มีให้ ลูกจะรับรู้ถึงสัมผัสการโอบกอด การพูดคุย รอยยิ้มของคุณพ่อคุณแม่ จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้ลูกต่อไป